บทที่ 24 เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย (75%)
“เฮ้ย! จริงดิ!”
“อืม”
“ที่โทรมาเนี่ยเพราะอยากถามกูเรื่องนลินนิภาว่างั้นเถอะ”
เมื่อจับต้นช้นปลายได้จอมพลก็ตัดเข้าเรื่องทันควัน
“ฉลาด”
“งั้นก็ว่ามา”
“กูอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของนลินนิภา”
“เอาจริงนะ กูเองก็รู้แค่ว่าเด็กนั่นเป็นลูกสาวของนายอานนท์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และเป็นหลานสาวของไอ้หวง” จอมพลบอกเท่าที่รู้จริงๆ
“หลานสาวไอ้หวง?”
“อ่าฮะ ไอ้หวงเคยบอกกูว่าถึงแม้ลุงของมันจะถูกปลดออกจากตำแหน่งแบบสายฟ้าฟาด แต่อำนาจและบารมีก็ยังคงมีอยู่มาก เพราะเคยเกื้อหนุนคนในแวดวงเดียวกันไว้เยอะ”
“งั้นถ้าเด็กนั่นทำผิด ก็คงไม่ยากที่จะปกปิดโดยใช้อิทธิพลของพ่อ”
“อืม…เอาจริงนะ นลินนิภาก็เป็นหนึ่งในคนที่กูสงสัยว่าจะลอบทำร้ายลูกกูเหมือนกัน”
แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก
“มันจะบังเอิญเกินไปไหม”
“นั่นดิ ดีไม่ดีสุดท้ายแล้วคนร้ายในคดีฆาตกรรมนีรา อาจเป็นคนคนเดียวกันกับคดีลอบทำร้ายลูกชายกูก็ได้” จอมพลสันนิษฐานทีเล่นทีจริง แล้วถามต่อ
“พอเป็นงี้ มึงเลยคิดจะตัดพัดชาออกเหรอ”
“กูยังไม่ตัดใครออกทั้งนั้น”
“แล้วถ้าหวยดันไปออกที่พยาบาลที่กินยาฆ่าตัวตายไปแล้วล่ะ”
คำว่าไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านไม่มีอยู่จริง
“กูไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำเองคนเดียวทั้งหมด การกระทำอุกอาจมากขนาดนี้มันต้องมีคนบงการ หรือมีคนร่วมมือด้วย อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นจะฆ่านีราไปทำไม ในเมื่อไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน” คราวนี้จักรพรรดิร่ายยาว
“ที่มึงว่ามาก็มีเหตุผล ถ้ากูได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับนลินนิภาจะติดต่อไปแล้วกัน แต่กูไม่โทรหานะ เดี๋ยวจะส่งช่องทางติดต่อไปให้” จอมพลเอ่ยอย่างจริงจัง เพราะในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาควรเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด
“แล้วน้องกัปตันเป็นยังไงบ้าง”
“ดีขึ้นแล้ว”
“มึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของพัดชาไหมที่ทำร้ายลูกมึง”
“ตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยสามราย คือพัดชา นลินนิภา และวิเวียน”
“วิเวียน?”
ตัวละครใหม่ที่โผล่มาทำให้จักรพรรดินึกสงสัย
“ลูกสาวบุญธรรมของแม่เลี้ยงกู”
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือน้องสาวบุญธรรมของจอมพล
“ทำไมจากมีผู้ต้องสงสัยแค่พัดชาคนเดียว ถึงกลายเป็นสามคนได้วะ”
“กูต้องไปประชุมแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันนะมึง”
หลังจากจอมพลเอ่ยตัดบท แล้ววางสายไปเสียดื้อๆ มาเฟียหนุ่มก็จมอยู่กับกองเอกสาร ก่อนที่สินจะเข้ามารายงานว่ามีคนมาขอพบ เขาถึงได้เดินไปที่ห้องรับรองแขก
ตลอดทั้งช่วงบ่ายจักรพรรดิยังคงนั่งสะสางงาน กระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบ เขาถึงได้วางปากกาในมือลง ลุกขึ้นบิดขี้เกียจขับไล่ความเมื่อยขบ ก่อนจะเดินไปคว้ามือถือที่ถูกวางทิ้งไว้ตรงโซฟา แล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าผู้โทรมาคือสารวัตรคณานับ อีกฝ่ายบอกว่าจะเข้ามาหา แล้ววางสายไป
ราวสี่สิบห้านาทีหลังจากนั้น นายตำรวจหนุ่มก็มาปรากฏตัวที่ห้องทำงานของท่านประธานใหญ่ของบริษัทเทรดหุ้นรายแรกในประเทศไทย
“มีเรื่องเร่งด่วนใช่ไหม”
หลังจากสินนำกาแฟมาเสิร์ฟให้คณานับ จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนโซฟาสีสนิมในฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยถาม เพราะอีกฝ่ายไม่เคยมาพบเขาในเวลานี้มาก่อน ยิ่งเป็นที่บริษัทด้วยแล้วยิ่งไม่เคย
“ครับ”
สารวัตรหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย พลางล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดอะไรต่อมิอะไรอยู่สามสี่ครั้ง ก่อนจะยื่นมือถือส่งให้จักรพรรดิ
“ผมเพิ่งได้วิดีโอนี้มา ตำรวจเพิ่งหาทางกู้ไฟล์กล้องวงจรคืนมาได้”
หลังจากรับโทรศัพท์ของอีกฝ่ายมาถือไว้ จักรพรรดิก็เพ่งมองภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏในวิดีโอ พร้อมกับขบกรามแน่น ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เขาถึงได้สติ ส่งมือถือคืนให้คณานับ พร้อมกับบอกให้อีกฝ่ายส่งไฟล์วิดีโอที่ว่ามาให้เขา
“เป็นนังพยาบาลบูรณาจริงๆ สินะ ที่เป็นฆาตกร”
หลังจากเงียบไปอึดใจ จักรพรรดิก็เค้นเสียงลอดไรฟัน
“อืม”
“แล้วพบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปหาพัดชา หรือนลินนิภาบ้างไหม”
จนถึงวินาทีนี้จักรพรรดิก็ยังคงไม่ปักใจเชื่อว่าบูรณาจะทำคนเดียว เขาคิดว่าหากไม่มีผู้บงการ ไม่มีทางที่คนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจ แถมยังเป็นถึงหัวหน้าพยาบาล จะลงมือฆาตกรรมคนไข้ได้
“ความเชื่อมโยงเกี่ยวกับพัดชายังคงคลุมเครืออยู่หลายอย่าง ส่วนนลินนิภาที่ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของบูรณาในก่อนหน้านี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะตรวจสอบแล้วปรากฏว่ามันเป็นเงินที่ทางบูรณาหยิบยืมนลินนิภาไปให้สามีลงทุนสร้างคอนโด ซึ่งมีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน และมีการสร้างคอนโดจริงๆ ซึ่งเอกสารที่ว่ามีการเซ็นหลายฉบับตั้งแต่สองปีที่แล้ว มันไม่น่าจะใช่เงินจ้างวานฆ่า เพราะหากเป็นการจ้างวานฆ่าจะต้องมีเม็ดเงินเข้ามาในบัญชีของบูรณาก่อนที่นีราจะถูกฆาตกรรมไม่นาน”
“แต่กูจำได้ว่า…มึงบอกกูว่าในวันเกิดเหตุคนที่บูรณาโทรศัพท์คุยด้วยเป็นคนสุดท้ายคือนลินนิภา ไม่ใช่เหรอ” คนที่ความจำเป็นเลิศเอ่ยอย่างกังขา
“ตำรวจถอดไฟล์เสียงออกมาแล้ว พบว่าคนที่โทรมาสั่งให้บูรณาลงมือฆ่าคุณนีราไม่ใช่นลินนิภา เพราะไม่ใช่เสียงของนลินนิภา ส่วนเบอร์โทรศัพท์ก็เป็นเบอร์ที่ไม่ได้จดทะเบียน”
“ไม่ได้จดทะเบียน?”
มาเฟียหนุ่มทวนคำ
“ครับ”
“งั้นกูยังไม่ตัดใครออกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพัดชา หรือนลินนิภา ยังคงเป็นผู้ต้องสงสัย ตราบใดที่ยังหาหลักฐานสรุปไม่ได้ว่าบูรณาทำคนเดียว ก็แสดงว่าสองคนนั้นอาจมีเอี่ยว”
“ก็อย่างที่เราคุยโทรศัพท์ไปเมื่อวันก่อนนั่นแหละ ว่าต่อให้บูรณาจะทำคนเดียวจริงๆ ก็ต้องมีใครสักคนบงการอยู่เบื้องหลัง คนไม่มีเรื่องบาดหมางใจกันฆ่ากันเฉยๆ แบบอยู่ดีๆ ก็นึกอยากฆ่าไม่ได้หรอก”
ข้อเท็จจริงตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่ทั้งจักรพรรดิและคณานับต่างเห็นตรงกัน
“อืม แต่ไม่ว่าจะถูกบงการยังไง ในเมื่อลงมือกระทำผิดไปแล้วก็คือฆาตกร ถึงแม้จะกินยาฆ่าตัวตายหนีความผิดก็ไม่สาสมกับความเลวระยำที่มันกระทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนบงการ คนขับรถตัวจริงที่ยังลอยนวล และผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมด ไม่ว่าใครหน้าไหนที่เกี่ยวข้อง กูจะหาทางลากคอมันมายัดเข้าคุกให้หมด”
มาเฟียหนุ่มประกาศกร้าวด้วยความคั่งแค้นเหลือคณา ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แล้วมีความเป็นไปได้ไหม ว่านังพยาบาลบูรณาจะเป็นคนสั่งการให้คนขับรถลงมือจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับครอบครัวกู”
